Skip to main content

Colemak ช่วยให้พิมพ์เร็วขึ้นจริงไหม?

ถ้าเปรียบให้คีย์บอร์ดเป็นอาวุธหลักในการเขียนโค้ด เลย์เอาต์คีย์บอร์ดก็คงเปรียบได้กับเทคนิคในการใช้อาวุธนั้น ซึ่งการใช้งานแต่ละเทคนิค (เลย์เอาต์) ก็จะได้ความเร็วที่ต่างกันไป

เลย์เอาต์ Colemak (รูปภาพ: colemak.academy)

แต่นอกจาก QWERTY แล้วยังมีอีกเลย์เอาต์หนึ่งชื่อว่า Colemak ที่มีเป้าในการต่อยอดจาก QWERTY ให้พิมพ์ได้เร็วขึ้น โดยพยายามให้นิ้วอยู่ในแถวกลาง (home row) ในขณะที่พิมพ์ให้มากที่สุด นอกจากนั้นก็ได้มีบอกจุดเด่นเพิ่มเติมดังนี้:

  • สะดวกสบายตามหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomics): เวลาใช้ QWERTY จะต้องขยับนิ้วมากกว่าบน Colemak ถึง 2.2 เท่า และยังจะต้องสลับแถวเวลาพิมพ์แต่ละครั้งมากกว่าถึง 16 เท่า ซึ่งถ้าใช้ Colemak จะพิมพ์คำด้วยแถวกลาง (home row) แถวเดียวได้มากกว่าถึง 35 เท่า
  • ฝึกใช้งานง่าย: เลยเอาต์คล้ายคลึงกับ QWERTY แถมยังใช้คีย์ลัดพวก Ctrl+Z/X/C/V ได้เหมือนเดิมอีกด้วย
  • เร็ว: เน้นไปที่การใช้งานนิ้วที่สะดวกในการพิมพ์ที่สุด ลดอัตราการใช้นิ้วซ้ำในการพิมพ์แต่ละครั้ง
  • ใช้ได้หลายภาษา: เหมาะในการใช้งานกับอีก 40 ภาษาทั่วโลก
  • ฟรี: อยากใช้ก็แค่ดาวน์โหลดมาลงได้เลย

Heatmap เทียบ QWERTY กับ Colemak แสดงให้เห็นว่าใน Colemak การพิมพ์ส่วนใหญ่จะอยู่ในแถวกลาง (รูปภาพ: redd.it/gng3rg)

ใช้แล้วเร็วขึ้นจริงหรือ?

ปกติใช้ QWERTY ได้เฉลี่ยอยู่ที่ 65 WPM (words per minute - คำต่อนาที) แต่หลังจากได้ลอง Colemak มาประมาณ 6 เดือน ได้ความเร็วเฉลี่ยเพิ่มเป็น 70 WPM ซึ่งก็เร็วขึ้นเล็กน้อย แต่นี่เป็นการเทียบเลย์เอาต์ที่ใช้มากว่า 10 ปี กับที่พึ่งใช้มาเพียงครึ่งปีเท่านั้น เลยอาจจะไม่เห็นความแตกต่างนักซึ่งก็หวังว่าจะเร็วขึ้นได้มากกว่านี้อีกในอนาคต

แต่จุดอื่นที่แตกต่างนอกจากความเร็วที่รู้สึกได้เลยก็คือพิมพ์สบายมือขึ้น ถ้าเทียบกับ QWERTY แล้วมือขยับออกจากแถวกลางน้อยมาก ถ้าพิมพ์เพลิน ๆ บางครั้งอาจจะไวกว่า 70 WPM เลยก็ได้

สถิติที่เคยพิมพ์ได้ไวสุดเป็น 89.97 WPM

ข้อเสียของ Colemak

ส่วนมากข้อเสียจะมาจากการที่ไม่ได้เป็นเลย์เอาต์มาตรฐานของทุกระบบปฏิบัติการ ทำให้บางส่วนเข้ากันไม่ได้ ทำให้เวลาใช้ค่อนข้างหงุดหงิดเล็กน้อย เลยรวม ๆ ที่พบมาได้เป็นตามนี้

แปะไว้อีกรอบ เผื่ออยากลองเทียบเลย์เอาต์ (รูปภาพ: colemak.com)

  • คีย์ลัดที่ไม่ใช่ Ctrl+Z/X/C/V จะเปลี่ยนที่หมดเลย ทำให้ช่วงแรก ๆ ต้องมาเรียนรู้ใหม่กันหมด คีย์ลัดที่เหลือรอดอื่น ๆ น่าจะเป็น Ctrl+W และ Cmd+Q (เหมือน Alt+F4 ใน macOS)
  • คีย์ลัด (อีกแล้ว) ตอนที่เปลี่ยนไปใช้ภาษาไทยมันจะยึดคีย์ลัดของ QWERTY แทน ทำให้กดผิดบางครั้ง (โดยเฉพาะปุ่ม R ที่มาแทน S ใน Colemak ลีมเปลี่ยนภาษาจะรีโหลดหน้าเว็บดันกลายเป็นเซฟเฉย)
  • เกมบางตัวถ้าฉลาดหน่อยจะปรับเลย์เอาต์ให้เลย เช่น เดินจาก WASD เป็น WARS แทน แต่ถ้าไม่ฉลาดก็คือต้องมานั่งปรับเองก่อนเล่น (เท่าที่ลองในเกมที่เล่นมาล่าสุด Minecraft กับเกมตระกูล Battlefield เปลี่ยนให้อัตโนมัติ แต่ Control กับ Teardown ต้องมาเปลี่ยนเอง)
  • เลย์เอาต์ออกแบบมาให้พิมพ์สัมผัส จะพิมพ์ต้องวางนิ้วชี้ที่ T กับ N ก่อน (F, J ใน QWERTY) ทำให้เวลาอยากกดปุ่ม ๆ เดียว เช่น กดคีย์ลัดเครื่องมือใน Photoshop ถ้าจำปุ่มไม่ได้ ก็ต้องวางนิ้วให้ครบก่อนถึงจะกดได้
  • สำหรับสายโค้ด (ที่ไม่ได้เขียน Python) ตัว Semicolon (;) ถูกย้ายที่ไปอยู่ตรงตัว P (ใน QWERTY) แทน เลยอาจทำให้ไม่ชินเล็กน้อย

อยากใช้ต้องฝึกยังไงดี?

ขั้นแรกก็ต้องติดตั้งเลย์เอาต์ Colemak มาก่อน หากใช้ macOS หรือ Linux จะมีติดมากับเครื่องเลย แต่ถ้าใช้ Windows ก็สามารถดาวน์โหลดจาก colemak.com มาติดตั้งได้

สำหรับสถานที่ฝึกจะแนะนำเป็น 3 เว็บไซต์นี้ที่ส่วนตัวใช้ฝึกมาตลอดจนพิมพ์คล่อง

1 | Monkeytype

Monkeytype ใช้ฝึกพิมพ์เลย์เอาต์อะไรก็ได้ แถมฝึกได้มากกว่า 50 ภาษา และยังมึภาษาโปรแกรมมิ่งอีกด้วย (อย่างในภาพด้านบนเป็น C#) แล้วก็ยังสมัครสมาชิกเพื่อเก็บสถิติไว้ดูพัฒนาการของเราได้

มีหน้าสรุปสวย ๆ ให้ดูด้วย

นอกจากนี้ยังมีโหมดสนุก ๆ ให้เล่น เช่น โหมดฝึกความจำ (โชว์คำแค่ก่อนพิมพ์เท่านั้น) หรือโหมดสลับเลย์เอาต์ (ครึ่งแรก Colemak ครึ่งหลัง QWERTY) ส่วนการตั้งค่าก็มีให้เลือกอีกเต็มไปหมด

รวม ๆ ตัว Monkeytype ก็เอาไว้ฝึกและก็บันทีกการพิมพ์ของเราได้เรื่อย ๆ แต่อาจจะเหมาะกับคนที่คุ้นชินกับเลย์เอาต์บ้างแล้ว ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของอีกสองเว็บถัดไปจากนี้ที่จะฝึกความคุ้นเคยให้กับเรา


2 | Colemak Academy

Colemak Academy จะแบ่งให้ฝึกเป็นระดับ เริ่มตั้งแต่ใช้แค่ปุ่มแถวกลาง (home row) ให้เราค่อย ๆ คุ้นเคยกับแต่ละปุ่มทีละนิด เมื่อคุ้นเคยแล้วก็ไประดับต่อไปที่จะเพิ่มปุ่มเข้าไปเรื่อย ๆ ในแต่ละระดับจนครบทุกปุ่มในระดับสุดท้าย

เว็บนี้มีรูปคีย์บอร์ดขึ้นให้ด้วย วางมือให้ถูกแล้วพิมพ์ตามได้เลย นอกจากนั้นยังปรับจำนวนคำ/เวลา หรือเลือกฝึกกับเลย์เอาต์อื่น ๆ เช่น QWERTY, AZERTY หรือ Dvorak ก็ได้


3 | Keyzen-Colemak

Keyzen-Colemak เป็นอีกเว็บหนึ่งที่ช่วยให้คุ้นเคยกับเลย์เอาต์ โดยเว็บนี้ไม่มีอะไรนอกจากพิมพ์ตามตัวอักษรที่ขึ้น จะเริ่มจากตัวอักษรในแถวกลาง (home row) ก่อนแล้วก็ค่อย ๆ เพิ่มไปเรื่อย ๆ ถ้าพิมพ์จนครบก็จะครอบคลุมทุกปุ่มบนคีย์บอร์ดเลย (เพราะมีตัวเลขกับอักขระพิเศษด้วย)

เว็บจุดเด่นอยู่ที่ถ้าเราพิมพ์ตัวไหนผิดมันจะจำไว้ แล้วเอากลับมาฝึกให้คล่องก่อนจะเพิ่มตัวอักษรตัวต่อ ๆ ไป ซึ่งก็เอามาต่อยอดจาก Colemak Academy กับปุ่มที่เรากดผิดบ่อย ๆ ก็ได้

บันทึกการฝึกส่วนตัว

ส่วนตัวคิดว่าพิมพ์เร็วแล้ว แต่ก็อยากให้เร็วได้กว่านี้อีก พิมพ์อยู่หลายปีกลับมาลองทดสอบความเร็วทุกครั้งก็ไม่เพิ่มเลยสักนิด พอได้ยินถึง Colemak ก็เลยมาลองใช้ดูซึ่งก็ทำเป็นขั้น ๆ ตั้งแต่ทำความคุ้นเคยกับเลย์เอาต์ รู้ว่าปุ่มไหนอยู่ตรงไหน (Colemak Academy + Keyzen-Colemak) จนจำได้หมดแล้ว (แต่ยังไม่คล่อง)

ต่อมาลองเอามาใช้งานจริงคู่กับ QWERTY ไปก่อน ผลก็คือช้าเป็นเต่าเลย ได้อยู่ที่ 20-30 WPM (คนส่วนใหญ่อยู่ที่ 40 WPM) จนต้องแวะกลับมา QWERTY หลายครั้ง นาน ๆ เข้าท้อแท้ ผ่านไปเกือบปีรู้สึกเสียดายที่เคยจำเลย์เอาต์ได้ ก็เลยกลับมาลองอีกครั้ง คราวนี้ลบ QWERTY ทิ้งไปเลย พิมพ์ไม่สะดวกก็ไม่มีที่ให้กลับไปอีกแล้ว

แผ่นที่ช่วยฝึกได้จนพิมพ์คล่องในทุกวันนี้

ปัญหาอีกจุดที่พบก็คือยังลืมบางปุ่มอยู่ แต่จะก้มไปมองก็ไม่ได้เพราะมันเป็น QWERTY ก็แก้ปัญหาโดยการพิมพ์เลย์เอาต์มาวางไว้ใต้จอไว้มองเผื่อลืม คราวนี้มีอีกจุดหนึ่งก็คือกลัวว่าจะเอา QWERTY มาช่วยจำตำแหน่ง เช่น จำว่า ARST (Colemak) อยู่ที่ ASDF (QWERTY) ก็เลยซื้อคีย์แคปแบบไม่มีตัวหนังสือมาเลย (แต่ตอนนี้เปลี่ยนกลับแล้วเพราะจะกลับมาฝึก QWERTY 😂)

ถ้าไม่มีตัวหนังสือ เราก็จะไม่ต้องมองคีย์บอร์ด (รูปภาพ: candykeys.com)

ซึ่งจากการที่บังคับตัวเองใช้มาหลายเดือนก็เริ่มเห็นผล พิมพ์คล่องขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายไม่ต้องใช้กระดาษใต้จอช่วยแล้ว

เมื่อดูจากผลการทดสอบใน Monkeytype ก็เห็นถึงพัฒนาการ (ไม่ได้บันทึกไว้ตั้งแต่สมัย 20-30 WPM เสียดายมาก) เริ่มจาก 50 WPM ในเดือนกันยายน (2021) ขึ้นมาเป็น 70 WPM ได้ในปัจจุบัน (มกราคม 2022) ซึ่งก็เป็นที่น่าพอใจพอสมควร

ใช้เป็นแล้วจะลืม QWERTY ไหม?

สั้น ๆ เลยคือลืม! พอพิมพ์ Colemak เร็วขึ้นเรื่อย ๆ ส่วน QWERTY เราก็จะช้าลงไปเรื่อย ๆ (ล่าสุดวัดได้ 26 WPM) ซึ่งก็คงไม่ดีนักถ้าต้องไปใช้คอมพิวเตอร์คนอื่น โดยในฟอรั่มของ Colemak ได้มีเขียนเรื่องนี้ไว้แล้วซึ่งก็สรุปรวม ๆ มาได้ว่า:

  • คนส่วนใหญ่ไม่ได้เรียน QWERTY แบบพิมพ์สัมผัส (วางนิ้วชี้ไว้ที่ F กับ J ก่อนพิมพ์) และการที่ Colemak ออกแบบมาให้พิมพ์สัมผัส จะช่วยให้สมองแยกออกจากกันได้ง่ายเพราะวิธีการเริ่มพิมพ์แตกต่างกัน
  • แต่ถ้าเรียน QWERTY แบบพิมพ์สัมผัสมาก็คงจะลำบากหน่อย เพราะเทคนิคการพิมพ์คล้ายกัน แถมบางปุ่มก็อยู่ที่เดียวกันอีก

สรุปก็คือต้องกลับไปเรียน QWERTY ใหม่อีกครั้ง โดยในบทความนั้นก็ยังแนะนำ Layout Swapper ที่จะเปลี่ยนเลย์เอาต์ไปมาเพื่อช่วยให้เราฝึกได้ (หรือจะใช้โหมด Layout Fluid ใน Monkeytype ก็ได้)


ภาคต่อของ Colemak ออกแล้ว มาดูกันว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง หลังจากใช้งานไปกว่า 1 ปี

การเดินทาง 1 ปีกับคีย์บอร์ด Colemak
_ไม่มีอะไรมากนอกจากเปลี่ยนไปใช้ Colemak-DH_medium.com


สรุป

Colemak เป็นเลย์เอาต์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะคนที่ทำงานอยู่กับคีย์บอร์ด ดูแล้วคุ้มค่ากับการลงแรงลงเวลาไปกับการฝึกใช้งาน แต่สุดท้ายก็อย่าลืมเพื่อนเก่าอย่าง QWERTY ด้วย (ขอตัวไปฝึกก่อนนนน)

อ้างอิง